*****ด้านชายแดน อ.ตาพระยา สามารถรวบได้ 3 หนุ่มคนไทยใช้รถอีแต๊กดัดแปลงซุกซ่อนน้ำมันดีเซลเกือบ2พันลิตรจะส่งข้ามชายแดนไปฝั่งกัมพูชา
*****(7ก.ค.65)นายประพันธ์ จันทร์ไทยศรี นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ จ.สระแก้วเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค.65 ที่ผ่านมา พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา สั่งการให้ ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12 (ชค.ทพ.12) ร่วมกับ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่111 (ฉก.ร.111) ประสานความร่วมมือกับ จนท. ด่านศุลกากรอรัญประเทศและ จนท.ตม.จว. สระแก้ว นำกำลัง จนท.ร่วมกันออกลาดตะเวรเพื่อป้องกันและจับกุมการลักลอบขนน้ำมันจากประเทศไทยส่งออกไปขายฝั่งกัมพูชาตามช่องทางธรรมชาติตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาอย่างเข้มงวด
*****ต่อมาขณะจนท.ชุดปฏิบัติการร่วมดังกล่าวลาดตระเวนมาถึงบริเวณท้ายหมู่บ้านแสง์ ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พบรถอีแต๊ก(รถไถนาเดินตาม) ดัดแปลงต่อเติมมีกระบะพ่วงท้ายสำหรับบรรทุกพืชผลทางการเกษตร โดยรถดังกล่าวกำลังวิ่งออกมาจากท้ายหมู่บ้านแสง์ ต.ทัพเสด็จ ซึ่งภายในรถนั้นมีชายชาวไทยนั่งมาด้วยจำนวน 3 คน หลังจากวิ่งออกมาจากท้ายหมู่บ้านแล้วรถคันดังกล่าวได้แล้วก็วิ่งลัดเลาะไปตามถนนลูกรังมุ่งหน้าจะข้ามไปฝั่งกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ล่อแหลมและเฝ้าระวังเป็นพิเศษของ จนท.
*****จากนั้น จนท.จึงได้เข้าตรวจสอบและตรวจค้น ซึ่งจากการตรวจสอบพบภายในกระบะดัดแปลงท้ายรถอีแต๊กมีถังพลาสติกสีน้ำเงินขนาดใหญ่บรรจุน้ำมันดีเซล ถังละ 30 ลิตร จำนวน 65 ถัง รวมน้ำมันดีเซลประมาณ 1,950 ลิตร วางซุกซ่อนอยู่ในกระบะ ตรวจสอบไม่มีเอกสารอนุญาตส่งออกน้ำมันแต่อย่างใด จนท. จึงควบคุมตัวชายไทยทั้ง 3 คน พร้อมตรวจยึดรถอีแต๊กและน้ำมันดีเซลทั้งหมด มาทำการสอบสวนอย่างละเอียด
*****ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นชายไทยทั้ง 3 คนยอมรับสารภาพว่าเป็นชาวบ้านใน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว และอ้างว่าได้รับการว่าจ้างจากชาวกัมพูชาให้นำน้ำมันดีเซลจำนวนดังกล่าวไปส่งให้นายทุนชาวกัมพูชาที่บ้านมะฮอสล๊อบ ต.โคกละเมียด อ.ทมอพวก จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านแสง์ ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว แต่ไม่ยอมบอกว่าได้ค่าจ้างเท่าไหร่ จนท.จึงควบคุมตัวทั้งหมดพร้อมของกลางส่งให้ จนท.ด่านศุลกากรอรัญประเทศไปดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ศุลกากร และสอบสวนหาที่มาของน้ำมันดังกล่าวเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
*****ขณะเดียวกันนายประพันธ์ จันทร์ไทยศรีนายด่านศุลกากรอรัญประเทศฯเปิดเผยว่าปัจจุบันน้ำมันดีเซลในฝั่งประเทศกัมพูชามีราคาแพงกว่าประเทศไทยระหว่าง 8-10 บาท ต่อลิตรทำให้มีคนไทยบางคนเห็นประโยชน์ส่วนตนจากส่วนต่างของราคาน้ำมันในกัมพูชาที่ค่อนข้างสูงกว่าของไทยจึงพยายามจะลักลอบนำเอาน้ำมันจากฝั่งไทยส่งออกไปขายในฝั่งกัมพูชาตามช่องทางธรรมชาติมากขึ้น ดังนั้น จนท.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาทางด้าน จ.สระแก้วจึงต้องร่วมกันคุมเข้มสกัดกั้นขบวนการลักลอบขนน้ำมันส่งไปฝั่งประเทศกัมพูชาตลอดแนวชายแดนอย่างเข้มงวด เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลในประเทศไทยนั้นรัฐบาลไทยได้ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันออกมาอุดหนุนเพื่อให้ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศไม่สูงเกิน ทั้งนี้ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศไทยถือว่าส่วนหนึ่งเป็นเงินภาษีของคนไทยที่นำมาอุดหนุนด้วย จึงต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำน้ำมันชนิดต่างๆออกไปขายกัมพูชาอย่างเข้มงวด
***ภาพ/ข่าว ทีมข่าว สวท.สระแก้ว /บูรพาทีวีออนไลน์ รายงาน
