ปทุมธานี เจ้าของบ้านไม่อยู่ไฟไหม้บ้านแตรวงขวัญใจสามโคกวอด 2 หลัง จนท.เร่งดับไฟ
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2565 เวลา 10:00 น. ร.ต.อ.จตุพร สอนวิทย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนจำนวน 2 หลัง ได้แก่ บ้านเลขที่ 14/1 หมู่ 5 และบ้านเลขที่ 14/5 หมู่ 2 ตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี จึงได้ประสานรถน้ำดับเพลิงเพื่อช่วยเหลือ มี พล.อ.อ.สักก์สกล แสงสุกรัตน์วดี ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี ดูแลด้านกองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย , นางวิพร แววศรีผ่อง นายอำเภอสามโคก , นายยอด ภู่เฉลิมตระกูล นายก อบต.คลองควาย , นายสายชล ภู่เฉลิมตระกูล กำนันตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ช่วยเหลือประสานรถน้ำดับเพลิงในพื้นที่และนอกพื้นที่ จำนวน 6 คันเพื่อควบคุมเพลิง โดยเพลิงได้ลุกไหม้บ้าน 2 หลัง ประกอบด้วยหลังแรก บ้านเลขที่ 14/1 หมู่ 5 มีสภาพบ้าน 2 ชั้น
ชั้นบนเป็นไม้ชั้นล่างก่อปูน ส่วนอีกหลัง บ้านเลขที่ 14/5 หมู่ 2 สภาพบ้านไม้ยกใต้ถุนสูง ทั้ง 2 หลังถูกเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งหลัง ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้านออกไปทำงานกันทั้งหมด ส่วนเพื่อนบ้านได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ต้นเพลิงเริ่มลุกลามจากชั้น 2 ของบ้านหลักแรกและลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนลามไปลุกไหม้ที่บ้านหลังที่ 2 จึงได้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่รีบน้ำรถน้ำดับเพลิงมากว่าจะควบคุมเพลิงได้เพลิงก็ลุกลามจนเสียหายทั้งหลังแล้ว จากการสอบถาม นางสมจิตร แซ่พัว อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 14/ 1 หมู่ 5 กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองและสามีไม่อยู่บ้าน จากนั้นเพื่อนบ้านได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าบ้านเพลิงไหม้จึงรีบกลับมาดูบ้าน เมื่อมาถึงก็ไม่ทันแล้วเพลิงได้ลุกทั่วทั้งหลังแล้ว ซึ่งที่บ้านประกอบอาชีพแตรวงขวัญใจสามโคก เพลิงได้ไหม้เครื่องดนตรีเสียหายไปบางส่วน ค่าเสียหายประเมินไม่ถูกเลย
ด้าน นางจุ๋ม ชาติรัก อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 14/5 หมู่ 2 กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนเองถางหญ้าอยู่ใกล้ๆบ้าน จู่ ๆ เห็นเพลิงเริ่มลุกไม้จากชั้น 2 ของบ้านหลักแรก ตนเองจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยดับเพลิงแต่เนื่องจากเส้นทางเข้ายาก รถน้ำดับเพลิงจึงเข้ามาช้าทำให้เพลิงลุกลามมายังบ้านของตนเองเสียหายทั้งหลัง ส่วน พล.อ.อ.สักก์สกล แสงสุกรัตน์วดี ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี ดูแลด้านกองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุทาง องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีได้นำรถน้ำดับเพลิงมาช่วยเหลือในการฉีดน้ำควบคุมเพลิงร่วมกับรถน้ำดับเพลิงจากในพื้นที่ใกล้เคียงรวมจำนวน 6 คัน โดยเพลิงได้สร้างกับเสียหายกับบ้าน 2 หลังซึ่งอยู่ติดกัน เบื้องต้นยังประเมินความเสียหายไม่ได้ ทั้งนี้ทางร้อยเวรเวรสอบสวนได้บันทึกสถานที่เกิดเหตุ สอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์และอยู่ในเหตุการณ์ ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงในการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป
ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน