กาฬสินธุ์ ติวเข้มอสม.ขานรับเปลี่ยนผ่านโควิดสู่โรคประจำถิ่น

พูดแล้วทำ“หมู วิรัช พิมพะนิตย์”ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินสายมอบเสื้อสามารถสร้างขวัญกำลังใจ พร้อมติวเข้มพัฒนาศักยภาพอสม.และผู้นำชุมชนในตำบลกลางหมื่น อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ขานรับนโยบายเปลี่ยนผ่านโรคโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะลงพื้นที่จัดกิจกรรมอบรมพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรืออสม.ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลน้ำบุ้น และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเหล่ากลาง ต.กลางหมื่น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเตรียมความพร้อมรับนโยบายเปลี่ยนผ่านโรคโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น พร้อมมอบเสื้อสามารถให้กับอสม.เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ โดยมีผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอสม.ใน ต.กลางหมื่น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เข้าร่วม


จากนั้นนายวิรัช พร้อมคณะได้นำรางวัล ซึ่งเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 สลึง ไปมอบให้กับนายเอกพันธ์ พรพนม อายุ 34 ปี ชาวบ้านใน ต.นาจารย์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นผู้โชคดี ที่แอดไลน์เข้าร่วมกิจกรรม “ครอบครัวคนรักหมู” ก่อนจะได้รับรางวัลดังกล่าว จากนั้นได้เดินทางไปพบปะผู้นำชุมชนทั้งกำนัน สารวัตรกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านใน ต.ภูดิน อ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานในช่วงที่ผ่านมา พร้อมกับสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเปลี่ยนผ่านโรคโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่นอีกด้วย


นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงเกือบๆ 3 ปีที่ผ่านมา นอกจากบุคลากรทั้ง แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถในการรักษา และป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว ยังมีอสม.และผู้นำชุมชนที่เป็นกำลังหลักในการปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้าอีกด้วย ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง ประกอบกับทางสบค.เตรียมที่จะประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น เบื้องต้นในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งด้านสาธารณสุข ด้านการแพทย์ ด้านกฎหมายและสังคม และด้านการสื่อสาร


นายวิรัช กล่าวอีกว่า ดังนั้นอสม.จึงจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมเปลี่ยนผ่านโรคโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น และนำความรู้ที่ได้เข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนตนเอง ซึ่งเป็นไปตามข้อกำชับของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เน้นย้ำเสมอว่าให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน เป็นการพูดแล้วทำ และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง อย่างไรก็ตามสำหรับการมอบเสื้อสามารถนั้นก็เป็นการสร้างขวัญ และกำลังใจให้กับอสม.ในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เหมือนกับเมื่อช่วงปีที่ผ่านมาได้มีการมอบประกันภัยโควิด-19 ให้กับอสม.ในพื้นที่กว่า 3,000 คน ซึ่งก็สามารถสร้างขวัญกำลังใจให้กับอสม.เป็นอย่างดีเช่นกัน

 

Related posts