พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เชิญผู้ปกครองเหยื่อค้าประเวณี 9 ราย พูดคุยติดตามการเยียวยา หลังคดีผ่านไป 6 เดือน เร่งส่งอีก 4 เข้าคุ้มครองพยาน
จากกรณีการเข้าช่วยเหลือเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ถูกบังคับค้าประเวณีในพื้นที่ จว.สุราษฎร์ธานี โดยได้มีการขยายผลช่วยเหลือเด็กที่เป็นเหยื่อทั้งสิ้นรวม 9 คน ออกหมายจับผู้ต้องหา 42 หมายจับ รวม 30 คน (แยกเป็นแม่เล้า 8 คน ข้อหาค้ามนุษย์ฯ และลูกค้า 22 คน ข้อหากระทำชำเราฯ และพรากผู้เยาว์ฯ) จับกุมไปแล้ว 41 หมายจับ 29 คน ซึ่งลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ มีทั้งลูกอดีตนักการเมืองชื่อดังใน จว.สุราษฎร์ธานี, หมอ, ทหาร, ผู้ช่วยเภสัช, เจ้าของร้านทอง, รองประธานสภา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลฯ และประธานสหกรณ์ยูเนียน จว.สุราษฎร์ธานี และยังมีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชาระดับสูงของบ้านพักเด็ก ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่ฯ หรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่ฯ โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายและขัดขวางการสืบสวนสอบสวนการฟ้องร้องหรือการดำเนินคดีความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ ซึ่งสื่อมวลชนและโซเชียลนำเสนอมาโดยตลอดนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (11 พ.ค.65) เวลา 14.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. และพล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 และ NGOs ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีอย่างใกล้ชิด โดยทาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้เข้าพูดคุยกับญาติของเหยื่อค้าประเวณีเด็กทั้งหมด เพื่อติดตามความคืบหน้าการเยียวยาผู้เสียหาย หลังจากตำรวจเข้าช่วยเหลือและจับกุมผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์มากว่า 6 เดือนแล้ว พบว่าญาติส่วนใหญ่ยังไม่ได้ไปยื่นเรื่องที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ตำรวจเข้าช่วยอำนวยความสะดวกในการยื่นขอรับเงินในการเยียวยา พร้อมให้เร่งสอบสวนปากคำพยานทั้งหมด โดยย้ำกับญาติของผู้เสียหายทุกรายว่า การรับเงินจากผู้ต้องหาเพื่อให้กลับคำให้การอาจทำให้ญาติของผู้เสียหายตกเป็นผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ด้วย
นอกจากนี้ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าตำรวจเร่งประสานงานส่งตัวเด็กที่เป็นเหยื่ออีก จำนวน 4 ราย ซึ่งอยู่ในบ้านพักเด็ก 2 ราย อีก 2 รายดูแลตัวเองที่บ้าน ให้เข้าสู่โครงการคุ้มครองพยานด้วย
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวยืนยันว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก ต้องเร่งทำให้ความจริงปรากฎและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ซึ่งขณะนี้สามารถออกหมายจับผู้ต้องหา ได้กว่า 42 หมายจับ และมีการจับกุมไปแล้ว 41 หมายจับ โดยเฉพาะการดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งนี้ คดีเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายเด็ก จะสามารถสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการได้ภายในสัปดาห์นี้ ส่วนการดำเนินคดีเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่ฯ หรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่ฯ โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายและขัดขวางการสืบสวนสอบสวนการฟ้องร้องหรือการดำเนินคดีความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ จะเร่งส่งสำนวนการสอบสวนเบื้องต้นไปยัง ป.ป.ช. ไม่เกินสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน
ในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบถึงการดำเนินการและการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง ช่องทางสายด่วน 1599 หรือ www.humantrafficking.police.go.th หรือ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/TICAC2016 หรือ LineOA: @HUMANTRAFFICKTH หรือ TWITTER: @safe_dek หรือช่องทางใหม่ล่าสุดคือ การสแกน QRCODE เพื่อกรอกแบบฟอร์มในการแจ้งเหตุและเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าวเพื่อแจ้งเบาะแสในการปราบปรามการกระทำผิดต่อไป