“รอง ผบ.ตร. เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ช่วงสงกรานต์ พร้อมโชว์แคมเปญ 7 วัน 7 คลิป 7 หมื่น”
**********************************************
วันนี้ (8 เม.ย.65) เวลา 10.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) พล.ต.อ.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. พร้อมด้วย คุณกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายการตลาด บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ผู้แทนสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ สถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงเปิด “ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตร.” และเปิดแคมเปญรณรงค์อาสาตาจราจรช่วงสงกรานต์ในชื่อ “7 วัน 7 คลิป 7 หมื่น” เพื่อให้ประชาชนช่วยกันเป็นอาสาตาจราจร ตรวจตราการกระทำผิดกฎจราจรและอุบัติเหตุบนท้องถนน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า สงกรานต์ปีนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งเตรียมกำลังพลกว่า 80,000 นาย อำนวยความสะดวกการจราจร และดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา และที่พักอาศัย รวมถึงการป้องปรามไม่ให้มีการฝ่าฝืนกฎหมาย ตลอดเทศกาลฯ โดยแบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประจำจุดกวดขันวินัยจราจร 18,371 นาย จุดตรวจแอลกอฮอล์ 12,139 นาย ชุดเคลื่อนที่เร็วช่วยเหลืออุบัติเหตุ 9,670 นาย ส่วนที่เหลือเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สายตรวจ ธุรการ ที่ระดมกำลังเพื่อกวาดล้างอาชญากรรมและบริการประชาชนตลอดเทศกาล โดยไม่มีวันหยุดพัก สำหรับวันนี้ เป็นวันแรกที่เปิด ศูนย์อำนวยการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนฯ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยถือปฏิบัติ ดังนี้
1) การอำนวยความสะดวกจราจรเพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย ให้ทุกหน่วยประสานเจ้าของถนนคืนพื้นผิวการจราจร เช่นจุดที่มีการก่อสร้าง ซ่อมแซมถนน เป็นเหตุให้รถชะลอตัว โดยสามารถคืนพื้นผิวได้แล้ว ทั้งหมด 418 จุดทั่วประเทศ จัดตำรวจอำนวยการจราจร ตามจุดสำคัญที่เป็นปัญหาการจราจร รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยว ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ให้มีชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมอุปกรณ์เช่น รถยก รถสไลด์ เข้าถึงที่เกิดเหตุและคลี่คลายการจราจรได้ทันที นอกจากนี้ ยังได้ออกข้อบังคับเปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถ ทั้งขาเข้าและออก กทม. รวมระยะทาง 445 กม. และข้อบังคับห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เดินในถนนบางสาย เพื่อลดความหนาแน่นการจราจร สำหรับรถบรรทุกที่มีความจำเป็นต้องเดินรถ เช่น รถขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง อาหารสด สามารถยื่น คำขออนุญาตผ่านระบบออนไลน์ ของ บก.ทล. ได้ที่ www.hwpdth.com
2) การป้องกันและลดอุบัติเหตุ ให้ทุกหน่วยทำบัญชีกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เพื่อเข้าไปรณรงค์ประชาสัมพันธ์ป้องปรามกลุ่มเป้าหมาย ตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร 1,937 จุด จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ 1,430 จุด และชุดสายตรวจจราจรอีก 1,903 ชุด เพื่อกวดขันจับกุมการกระทำผิดกฏจราจรที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุเริ่มตั้งแต่ 4 เม.ย.65 เป็นต้นมา และช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น โดยทุกจังหวัดได้ตั้งค่าเป้าหมายการลดอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ต้องลดลงจากค่าเฉลี่ยสงกรานต์ 3 ปีย้อนหลัง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ทั้งนี้ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่ 10 – 18 เม.ย.65 กำหนดให้มีการประชุมติดตามสถานการณ์อุบัติเหตุและการจราจรทุกวัน ในช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น (12 – 18 เม.ย.65)
โดยมอบหมาย พล.ต.อ.ปรีชาฯ และ พล.ต.ท.ประจวบฯ เป็นประธานการประชุมตลอด 7 วัน และวันนี้เป็นการประชุมเปิดศูนย์ฯ เพื่อสั่งการทุกหน่วยให้เตรียมความพร้อมขั้นสุดท้าย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า การจะลดอุบัติเหตุบนถนนได้อย่างมีนัยสำคัญ ต้องสร้างจิตสำนึกการขับขี่ปลอดภัยตามกฎหมายจราจรให้กับสังคม ซึ่ง ตร. ได้ทำโครงการ อาสาตาจราจร ร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับบ.วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) จส.100 และ สวพ.91 เพื่อให้ประชาชนส่งคลิปกล้องหน้ารถ หรือคลิปจากกล้องโทรศัพท์มือถือ ที่บันทึกเหตุการณ์การกระทำผิดกฎจราจรสำคัญที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลอื่น
หรือบันทึกอุบัติเหตุสำคัญและสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในทางคดีของตำรวจได้เพื่อช่วยคนดีชี้คนผิดโดยมูลนิธิเมาไม่ขับจะคัดเลือกเดือนละ 10 คลิป เป็นเงินรวม 50,000 บาท ตั้งแต่เริ่มโครงการในเดือน พ.ย.64ที่ผ่านมา มีประชาชนส่งคลิปมากว่า 100 คลิปแล้ว และสำหรับในเทศกาลสงกรานต์นี้ จะมีแคมเปญพิเศษ“7 วัน 7 คลิป 7 หมื่น” ให้ประชาชนส่งคลิปในช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้นของเทศกาลสงกรานต์ 2565 จากคลิปที่ส่งมาทั้งหมด จะมีการคัดเลือกให้เหลือ 7 คลิป และจะมีรางวัลให้คลิปละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 70,000 บาท โดยได้รับสนับสนุนเงินรางวัลจาก บ.วิริยะประกันภัย ฯ รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ช่องทางในการส่งคลิป มี 4 ช่องทาง ได้แก่
1 ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. https://www.facebook.com/SocialMediaRoyalThaiPolice/
2 จส.100 ช่องทาง เฟซบุ๊ก : JS100 Radio https://www.facebook.com/js100radio/
3 สวพ.91 ช่องทาง เฟซบุ๊ก สวพ.91 https://www.facebook.com/fm91trafficpro/
4 มูลนิธิเมาไม่ขับ เพจอาสาตาจราจร https://www.facebook.com/อาสาตาจราจร-100472452158287/
ทั้งนี้ คลิปที่ถูกส่งมาตามช่องทาง ศูนย์บริหารงานจราจร ตร. จะถูกส่งต่อไปยังสถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายทุกราย หรือกรณีเป็นคลิปอุบัติเหตุ จะส่งต่อให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนำไปใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีต่อไป สำหรับในวันนี้ได้มีการมอบรางวัลและประกาศนียบัตรให้กับเจ้าของคลิปที่ได้รับรางวัล ประจำเดือน มี.ค.65 จำนวน 10 คลิป รวมเป็นเงิน 50,000 บาท อีกด้วย ผอ.ศจร.ตร.กล่าว
**********************************************