ลพบุรี เทคนิคโคกสำโรงวิทยาลัยแสงอาทิตย์แห่งแรกลพบุรี ติตโชลาร์รูฟท็อปปลดล๊อคค่าไฟฟ้าแพง

ลพบุรี เทคนิคโคกสำโรงวิทยาลัยแสงอาทิตย์แห่งแรกลพบุรี ติตโชลาร์รูฟท็อปปลดล๊อคค่าไฟฟ้าแพง

 

วันที่20 มีนาคม 2565 นายณรงค์ ชัยจำรัส นายอำเภอโคกสำโรง ประธานพิธีเดินทางถึงเทคนิคโคกสำโรงวิทยาลัย
นักเรียน และบุคลากทางการศึกษา ของวิทยาลัยเทคนิคโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ร่วมกันเปิดตัว “โซลาร์เจเนอเรชั่น วิทยาลัยแสงอาทิตย์ (SOLAR GENERATION) ” สร้างการเรียนรู้และการจ้างงานจากพลังงานแสงอาทิตย์
เป็นปีที่ 2 ของกองทุนแสงอาทิตย์ ที่เปิดรับเงินบริจาคผ่านกองทุนฯ เพื่อติดตั้งระบบโซาร์รูฟท็อปให้วิทยาสัยสายอาชีพ 7 แห่ง แห่งละ 10 กิโลวัตต์ทั่วประเทศ โดยใช้เงินในการติคตั้งแห่งละ 400,000 บาท ทั้งนี้ยอคบริจาคในปัจจุบันอยู่ที่ 706.688.19
บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 10 มี.ค. 2565) จากเป้าหมายรวม 1,600,000 บาท
ในปี 2565 กองทุนแสงอาทิตย์ยังคงเดินหน้าระดมเงินบริจาคคิดตั้งโซลาร์รูฟท็อปของวิทยาลัย ทำให้ขณะนี้อาทิตย์สามารถระดมเงินทุนเพื่อเดินหน้าพลังงานงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของวิทยาลัยได้อย่างนัอย 5 แห่งจากเป้าหมายทั้งหมด 7 แห่งนำร่องทั่วประเทศ

นางสาวบุญยืน ศิริธรรม กรรมการกองทุนแสงอาทิตย์ กล่าวว่า “แสงอาทิตย์คือความเป็นธรรมด้านพลังงานที่ให้ความเสมอภาคกับทุกภาคส่วน การเข้าถึงแสงอาทิตย์คือสิทธิของมนุษย์ทุกคน กองทุนแสงอาทิตย์เกิดขึ้นโดยกลุ่มคนที่มีแนวคิดเดียวกัน แต่แนวคิดนี้ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มุ่งมั่นผลักดันให้ประชาชนเป็นได้แค่ผู้จ่ายเงินซื้อ พลังงานภายใต้การผูกขาดของอุตสาหกรรมพลังงานฟอสซิล โดยมิได้คำนึงถึงผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ วิถีชีวิตของผู้คน อย่างที่เราจะเห็นได้จากการประท้วงโครงการโรงไฟฟ้าฟอสซิสในหลายพื้นที่
ดังนั้นคณะกรรมการกองทุนแสงอาทิตย์จึงทำวิจัยเชิงปฏิบัติการชื่อ “โรงพยาบาลแสงอาทิตย์ Solar Hospitals” เพื่อบริจาคและติดตั้งให้ครบทั้ง 7 โรงพยาบาล ชัอมูลบงซี้ชัดเจนว่าแสงอาทิตย์ใช้ได้ทุกภาคและเกิดผลดีกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังช่วยโรงพยาบาลประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก จากนั้นกลุ่มเป้าหมายถัดมา คือ วิทยาลัย ทั้งการอาชีพ เทคนิคและอาชีวะ เพื่อก่อให้เกิดการรียนรู้จากการติดตั้งและการติดตามผลงาน การเป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้เรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับผู้คนที่สนใจ รวมทั้งการจ้างงานและก้าวสู่ผู้ประกอบการพลังงานแสงอาทิตย์ “วิทยาลัยเทคนิคโคกสำโรง อยู่ในเขตอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี เป็นสถานศึกษาที่มีนักเรียนด้านวิชาชีพจำนวน 998 คน


ตั้งแต่ระดับ ปวช. ปวส.ที่มุ่งเนันพัฒนาความเป็นเลิศทางวิชาชีพด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี และสอดคล้องกับความต้องการของ
ตลาดแรงงานและสังคม และหลักสูตรพลังงานแสงอาทิตย์เป็นหนึ่งในการเรียนการสอนที่ทางวิทยาลัยให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นเช่นกัน

นายเริงศักดิ์ เข็มทอง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคโคกสำโรง กล่าวว่า “วิทยาลัยเทคนิคโคกสำโรงถือเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกของจังหวัดลพบุรีและภาคกลาง และเป็นวิทยาลัยแสงอาทิตย์แห่งที่ 4 ของประเทศจากกองทุนแสงอาทิตย์ การติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปชนาดกำลังผลิตไฟฟ้า 10 กิโลวัตตในครั้งนี้คาคว่าจะชวยลดค่าไฟฟ้ไห้กับวิทยาลัย
ไม่ต่ำกว่า 60,000 บาทต่อปี หรือในระยะเวลามากกว่า 25 ปี ทางวิทยาลัยสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ราว 1.500,000 บาท


ตลอดอายุการใช้งานของแผงโชลาร์เซลส์ ทางวิทยาลัยขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่ร่วมบริจาคเงิน ทำให้เราสามารถติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปได้ ซึ่งนอกจากจะลดภาระค่าไฟฟ้าของทางวิทยาลัยและยังสามารถใช้หลังคาโซลาเซลล์เป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียนสู่การประกอบอาชีพหลังจากจบการศึกษาและผู้ประกอบการโซลาร์เซลล์ ซึ่งธุรกิจโซลาร์เซลล์เติบโตเพิ่มขึ้นอย่าง
ต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดลพบุรีและระดับประเทศ”
ลพบรีเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและความเชัมช้นของพลังงานแสงอาทิตย์สูงที่สุดแห่งหนึ่งของไทย จากข้อมูลการรับซื้อไฟฟ้าของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พบว่า จังหวัดลพบุรีมีการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด 24 โครงการ กำลังกา
ผลิตรวมกว่า 205 แมกะวัตต์ ทั้งนี้หลังคาว่างของบ้านเรือน อาคารสถาบันการศึกษา หน่วยงานและสถานประกอบการมี
ศักยภาพในการคิดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลได้อีก สร้างการจ้างงานและเศรษฐกิจที่ฐานรากอย่างยิ่งยืนและเป็นธรรม

นายธีรพงศ์ แสงลาภเจริญกิจผู้ประสานงานการปฏิวัติเมืองยั่งยืน กรีนพีช ประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรเครือข่ายของกองทุนแสงอาทิตย์ กล่าวว่า “โลกและประเทศไทยจะต้องเปลี่ยนผ่านพลังงาน รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการต้องมีเจตจำนง
ที่จะเปลี่ยนผ่านพลังาน โดยการผลักดันให้เกิดการลงทุนติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงเรียนและวิทยาลัยกว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศ ทั้งหมดนี้จะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเพิ่มขึ้นกว่า 700 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 22,000 ล้านบาท การลงทุนนี้จะชวยให้สถาบันการศึกษาประหยัดงบประมาณและมีรายได้เพิ่มทั้งหมดราวกว่า 5,000
ล้านบาทต่อปี คือสามารถคืนทุนได้ภายในเวลาเพียง 4.48 ปี และประหยัดเงินจำนวนเดียวกันนี้ไปได้ทุกปีตลอดอายุขัย 20 ปี ของแผงโซลาร์เซลล์ พร้อมทั้งเป็นจุดเริ่มตันที่จะให้นักเรียนได้เรียนรู้และทำความคุ้นเคยกับพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดที่จะ
กลายเป็นอนาคต และเตรียมพร้อมอาชีวะสร้างชาติในอนาคตยุคต่อไป”

กองทุนแสงอาทิตย์เปิดรับบริจาคเงินจากประชาชนทั่วประเทศผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาเซ็นเตอร์วัน ซ้อปปิ้งพลาซ่า ชื่อบัญชี “กองทุนแสงอาทิตย์โดยมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค” เลขที่บัญชี 429-017697-4 โดยมีช่องทางการรับบริจาคและรับหลักฐานการบริจาคเงินทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ ww. thaiandsolarfund.org ทั้งนี้การบริจาคเงิน สามารถใช้
ในการลดหย่อนภาษีประจำปีได้ ด้วยมูลนิธิฯ เป็นองค์กรสาธารณะประโยซน์ลำดับที่ 576 ตามประกาศกระทรวงการคลัง กองทุนแสงอาทิตย์เกิดขึ้นจากความร่วมมือของเครือข่ายภาคประชาสังคมที่หลากหลายทั้งด้านผู้บริโภค การพัฒนาเด็ก สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อระดมทรัพยากรติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ทำงานรณรงค์ผลักดันให้เกิดการ
ขยายตัวของระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาในระดับครัวเรือน หน่วยงานและสถาบันทั้งภาครัฐและเอกชน และภาคธุรกิจบนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปฏิรูปพลังงานโดยการลงมือทำจริงในพื้นที่เป้าหมายและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายพลังงานหมุนเวียน เครือช่ายกองทุนแสงอาทิตย์ประกอบด้วย

(1)คณะอนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ
(2)คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน(คอบซ)
(3)สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
(4)มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ)
(5)ครือข่ายองค์กรผู้บริโภค
(6)สมาคมประชาสังคมชุมพร
(7) มูลนิธิป่า – ทะเลเพื่อชีวิต
(8)บริษัทศูนย์บ่มเพาะวิศวกร จำกัด
(9)Solarder
(10)โรงเรียนศรีแสงธรรม
(1 1)มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก
(มพด)
(12)เครือข่ายสลัม4ภาค
(13)มูลนิธิภาคใต้สีเขียว
(14 )เครือข่ายลันตาโกกรีน Lanta Goes Green
(15)มูลนิธสุขภาพไทย
และ (16)กรีนพีช ประเทศไทย
(17) สภาองค์กรของผู้บริโภค

ในช่วงปี 2562-2563 กองทุนแสงอาทิตย์ประสบความสำเร็จในการระดมเงินบริจาคจากประชาชนจนสามารถติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปกำลังการผลิตรวม 240.63 กิโลวัตต์ให้กับโรงพยาบาลภาครัฐที่เข้าร่วมโครงการเฟสแรก 7 แห่ง คือโรงพยาบาลท่าสองยาง จ.ตาก โรงพยาบาลภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ โรงพยาบาลทุ่งศรีอุดม จ.อุบลราชธานี โรงพยาบาลชุมแพ จ. ชอนแก่น
โรงพยาบาลแก่งคอย จ.สระบุรี โรงพยาบาลหลังสวน จ.ชุมพร และโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ,จันทบุรี ได้เป็นผลสำเร็จ และ
สามารถลดค่าไฟฟ้าของโรงพยาบาลทั้ง 7 แห่งรวมกัน 1.4 ล้านบาทต่อปี
ในปี 2563-2564 กองทุนแสงอาทิตย์จะระดมเงินบริจาคเพื่อติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้วิทยาลัยการอาชีพ 7 แห่งทั่วประเทศ เป็นการระดมเงินบริจาคเพื่อติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้กับวิทยาลัยการอาชีพ 7 แห่ง แห่งละ 10 กิโลวัตต์ทั่วประเทศคือ วิทยาลัยอาชีวศึกษากาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี, วิทยาลัยการอาชีพแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง, วิทยาลัยเทคนิคสกลนคร จังหวัดสกลนคร วิทยาลัยการอาชีพกระบุรี จังหวัดระนอง, วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา, วิทยาลัยการอาชีพอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม และวิทยาลัยเทคนิคโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี
สถานะการรับซื้อ SPP, VSPP คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)

สนอง แท่นสูงเนิน
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลพบุรี รายงาน

Related posts