กระบี่-ทนายความ อาสา ยื่นมือช่วย ลุงวัย 60 ปี ฐานะยากจน ชาวกระบี่ ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด 19 เข็ม 3 ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง เบื้องต้นทำเรื่องขอเงินเยียวยา เรื่องกลับเงียบ

กระบี่-ทนายความ อาสา ยื่นมือช่วย ลุงวัย 60 ปี ฐานะยากจน ชาวกระบี่ ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด 19 เข็ม 3 ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง เบื้องต้นทำเรื่องขอเงินเยียวยา เรื่องกลับเงียบ


วันที่ 12 มี.ค.65 นายราเชลร์ จันทร์อ่อน ทนายความสำนักงานกฎหมายราเชลร์ทนายความได้รับการร้องเรียนจากนางมณฑาทิพย์ นิลตะ อายุ 65 ปี ที่อยู่ 54/4 ถ.เมืองเก่า ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ภรรยาของนายสุเทพ บัวกิ่ง อายุ 60 ปี ว่า สามีได้รับการฉีดวัคซีนตามที่รัฐบาลและจังหวัดกระบี่ มีการรณรงค์ให้ไปรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ตามมาตรการเกี่ยวกับการแพร่ระบาด COVID-19 เมื่อ 10 มกราคม 2565 ที่ รพ.กระบี่

ต่อมา เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 หลังได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19)เพียง 2 วันเท่านั้น เกิดอาการไม่พึงประสงค์ โดยมีอาการเส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ฉีกขาดแตกแยกชั้นด้านซ้ายต้องผ่าตัดใส่ท่อขดลวด อาการขาขวาขาดเลือด เจ็บหน้าอกคลำชีพจรขาขวาไม่ได้ตลอดจนขาขวาและอวัยวะต่างๆตามร่างกายซีกขวาเลือดไม่เดินจนเกิดมีสีคล้ำ รพ.กระบี่ ต้องส่งตัวนายสุเทพฯไปรักษาที่ รพ.วชิระภูเก็ต เร่งด่วน จนรอดชีวิต และส่งตัวกลับมารักษาตัวที่ รพ.กระบี่ (รพ.ต้นสังกัด) จนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2565

ด้วยเหตุที่เกิดอาการต่างๆที่ไม่พึงประสงค์ หลังฉีดวัคซีนเพียง 2 วัน จึงเชื่อมั่นว่าเป็นผลข้างเคียงจากการรับวัคซีนเข็มที่ 3 ในวันที่ 10 มกราคม 2565 จึงได้แจ้งต่อแพทย์ รพ.กระบี่ เพื่อวินิจฉัย ปรากฏว่า แพทย์ รพ.กระบี่ กลับแจ้งว่าอาการดังกล่าวเกิดจากโรคประจำตัวของนายสุเทพฯเอง ซึ่งก่อนรับวัคซีนแพทย์ไม่เคยตรวจร่างกายให้แต่อย่างใด และนายสุเทพฯก็ไม่เคยมีโรคประจำตัวใดๆมาก่อน ทางผู้เสียหายจึงได้ร้องขอความช่วยเหลือต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ แต่ยังไม่ได้รับการประสานงานใดๆกลับมา

ต่อมา สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ได้ประสานงานกับ รพ.กระบี่ และได้นำแบบยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 มาให้กรอก และยื่นต่อ รพ.กระบี่ เมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา แต่เรื่องกลับเงียบหายไป เบื้องต้นได้รับแจ้งจาก รพ.กระบี่ ว่า เรื่องดังกล่าวได้ส่งไปยัง เขต 11 สุราษฎร์ธานี แล้วนับจากวันที่ 12 มกราคม 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาเกือบ 60 วันแล้ว นายสุเทพฯยังไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถลุกนั่งได้ หากแพทย์ รพ.กระบี่ วินิจฉัยว่าอาการดังกล่าวเป็นอาการที่ไม่พึงประสงค์หลังจากการรับวัคซีน ผู้ป่วยจะได้รับการเยียวยารักษาได้อย่างรวดเร็วกว่านี้ แต่เมื่อ แพทย์ รพ.กระบี่ วินิจฉัยว่าอาการดังกล่าวเกิดจากโรคประจำตัว ทั้งๆที่นายสุเทพฯไม่เคยมีโรคประจำตัวใดๆ และไม่เคยมีอาการใดๆจากการใช้ชีวิตปกติมาก่อนหน้านี้

ดังนั้น เมื่อรับวัคซีนเข็มที่ 3 เพียง 2 วัน และเกิดอาการดังกล่าว นายสุเทพฯควรได้รับการดูแลเยียวยาจากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทันที ไม่ใช่ต้องให้เป็นภาระของญาติในการวิ่งพิสูจน์หาความจริงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยตนเองเช่นนี้มานานเกือบ 2 เดือน ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้ ตนจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือในการติดตามความคืบหน้าในการพิจารณาจากเขต 11 สุราษฎร์ธานี และหากนายสุเทพฯ ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากกรณีดังกล่าว ก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลต่อไป

“แม้คนที่เสียชีวิตไปก็ได้รับการเยียวยาช่วยเหลือโดยไม่ต้องพิสูจน์ ส่วนคนที่ยังไม่เสียชีวิตจากร่างกายที่แข็งแรงประกอบอาชีพได้กลับต้องกลายมาเป็นผู้ป่วยติดเตียงโดยไม่ได้รับการเยียวยา และไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ภรรยาต้องหยุดค้าขายมาดูแลสามี ครอบครัวยากจน ควรได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยด่วน จึงฝากถึงรัฐบาล และ สป.สช. อย่าให้คนป่วยต้องมาตายทั้งเป็นโดยไม่ได้รับการดูแล จนกระทั่งต้องเสียชีวิตไปอีกชีวิตหนึ่งเลย การวางระบบเยียวยาหลังรับวัคซีนนั้นน่าจะดีอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้หากปัญหาเกิดจากระบบ ควรแก้ที่ระบบ หากปัญหาเกิดจากผู้ปฏิบัติไม่พิจารณาวินิจฉัยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก็ควรพิจารณาให้ปฏิบัติในทางเดียวกัน คือพบอาการไม่พึงประสงค์ใดไปหลังรับวัคซีน ควรพิจารณาวินิจฉัยลงความเห็นให้แก่ผู้ป่วยด้วยว่ามีอาการดังกล่าวหลังจากรับวัคซีนกี่วันในใบรับรองแพทย์ไว้ น่าจะเป็นทางออกที่ดี อย่าให้ประชาชนมองว่าหากเป็นคนที่รู้จักการวินิจฉัยลงความเห็นเป็นคุณ หากไม่รู้จักลงตามความเห็นที่ฉันคิดว่าใช่ ซึ่งเกิดเหตุแพทย์วินิจฉัยผิดพลาดเกิดขึ้นบ่อยๆที่ผ่านมา

จึงขอฝากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพัฒนาระบบและบุคคลากรต่อไปและจะติดตามความคืบหน้า ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวต่อไป เมื่อประชาชนแข็งแรง ทำมาหากินได้ ไปรับวัคซีนเกิดอาการไม่พึงประสงค์จนต้องนอนติดเตียง แพทย์วินิจฉัยไปทางหนึ่ง ประชาชนเข้าใจว่าสาเหตุของอาการเกิดจากหลังรับวัคซีน กลับถูกแพทย์ตำหนิว่าให้ข่าวเช่นนี่ได้อย่างไร เดี๋ยวใครๆก็ไม่กล้ามารับการฉีดวัคซีน ในส่วนนี้หลังรับวัคซีนแล้วเกิดอาการไม่พึงประสงค์ใดๆควรเยียวยาทันทีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน ไม่ควรตำหนิประชาชนที่ออกมาพูดตามความเข้าใจที่เกิดขึ้นจริง ทนายราเชลร์กล่าว…

กระบี่//ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน

Related posts