พุทธศาสนิกชน ร่วมฟังธรรมเทศนาสอนใจ ในงานนมัสการองค์พระธาตุพนม
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 19.00 น. ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำพุทธศาสนิกชนประกอบพิธีทำวัตรเย็น เจริญสมาธิ รับฟังพระธรรมเทศนาเจริญสติปัญญา และร่วมกันประกอบพิธีเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุพนม เนื่องในงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ประจำปี 2565
ซึ่งจังหวัดนครพนมได้ร่วมกับคณะสงฆ์และประชาชนในพื้นที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-17 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อเป็นการสืบสานงานบุญประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน ระหว่างวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 จนถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี เพื่อเป็นพุทธบูชาถวายแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และองค์พระธาตุพนม
โดยวันนี้เป็นวันแรกของการจัดงานทำให้ตลอดทั้งวันมีประชาชนหมุนเวียนกันมาร่วมงานกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลายคนเลือกที่จะมาร่วมงานในช่วงเย็นเพื่อที่จะได้สดับฟังพระธรรมเทศนาจากพระพรหมเสนาบดี เจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคาราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ที่รับกิจนิมนต์มาแสดงพระธรรมสอนใจให้ข้อคิด เกี่ยวกับการบูชาในสิ่งที่ควรบูชาเพราะจะเป็นมงคลอย่างยิ่งต่อชีวิต โดยแบ่งการบูชาออกเป็น บุคคลที่ควรบูชา คือ พ่อแม่ ครูอาจารย์ พระมหากษัตริย์ ตลอดจนบุคคลที่มีบุญคุณต่อเราและประเทศชาติ ตามมาด้วยวัตถุบูชาซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีชีวิตึความเป็นอยู่ในทุกวันนี้ เช่น น้ำ ข้าว และเครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ และสุดท้ายคือสาธารณะสถานบูชา คือสิ่งที่เป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวง
นอกจากนี้ยังได้ยกตัวอย่างในเรื่องของการทำบุญสำหรับพุทธศาสนิกชนว่า การทำบุญนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่ที่จำนวนของวัตถุว่ามากหรือน้อย แต่ขึ้นอยู่ที่เจตนาที่ต้องมีทั้งความตั้งใจ เต็มใจและปลื้มใจ เพราะการทำบุญในลักษณะนี้แม้ทำบุญน้อยแต่ก็ได้กุศลมาก ซึ่งก็ได้ยกตัวอย่างพระธรรมสูตร เมื่อครั้งสมัยพระเจ้าอโศก ที่นางโกทะกีได้เก็บดอกบัวในสระเพื่อนำไปกราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ในพระเจดีย์ โดยระหว่างทางโดนแม่โคขวิดเสียชีวิต
แต่ด้วยจิตที่มุ่งมั่นแน่วแน่ทำให้ได้ไปจุติใหม่ที่สรวงสวรรค์ เพื่อเป็นการชี้ให้เห็นว่าการบุญอยู่ที่เจตนา อย่าทำบุญที่จำนวนและหวังผล เพราะถ้าคิดเช่นนั้นจะก่อให้เกิดความทุกข์และเป็นการสร้างภาระให้กับตนเองและผู้อื่น ซึ่งการมานมัสการองค์พระธาตุพนมที่บรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้นั้นพุทธศาสนิกชนสามารถมาได้ทุกเวลาที่มีโอกาสไม่ใช่เฉพาะในช่วงวันงานเท่านั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด จึงอยากให้ทุกคนได้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
สุเทพ หันจรัส ผสข.นครพนม