แนวคิดสำคัญในการฝึกทักษะการผลิตพืช สร้างความสามัคคีในการทำงานร่วมกัน โดยบูรณาการความร่วมมือของนักศึกษาทุกชั้นปี สาขาวิชาพืชไร่ และนักศึกษาชั้นปีที่1 สร้างทุ่งคอสมอส ทุ่งดอกทานตะวัน และดอกดาวกระจาย เชื่อว่าแปลงกังหันจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นจุดเช็คอินรับปีใหม่ต้อนรับการมาเยือนของผู้ชื่นชอบพรรณไม้งาม
เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดรายงานว่า จากการที่ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดพิธีเปิดแปลงกังหัน ทุ่งดอกไม้นานาพรรณ ครั้งที่ 9 ที่ผ่านมา ณ แปลงกังหัน หมวดพืชไร่ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.)โดยมี รศ.ดร.ดรุณี โชติษฐยางกูร คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ กล่าวต้อนรับ นายภาณุพงศ์ วงษ์ทอง ประธานชมรมเกษตรเรียนรู้ สาขาวิชาพืชไร่ สโมสรนักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ กล่าวรายงานต่อ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย ดร.เอื้อนจิต พานทองวิริยะกุล ภริยา ผู้เข้าร่วมในพิธีประกอบด้วยรองอธิการบดี ผู้ช่วยอธิการบดี คณบดี คณาจารย์ สื่อมวลชน แขกผู้มีเกียรติ และนักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ เข้าร่วมงานจำนวนมาก
รศ.ดร.ดรุณี โชติษฐยางกูร คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า “แปลงกังหัน เคยเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงความยินดีแก่ผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยขอนแก่นและญาติมิตรในทุก ๆ ปี แต่ปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดและความรุนแรงของโรคติดต่อ โควิด-19 จึงได้เลื่อนมา โดยมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการฝึกทักษะการผลิต การเป็นผู้ประกอบการทางการผลิตพืช และที่สำคัญเป็นหนึ่งโครงการสำคัญในยุทธศาสตร์ของคณะเกษตรศาสตร์ ปัจจุบัน แปลงกังหันจัดเป็น Land Mark ใหม่และสำคัญของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และจังหวัดขอนแก่น ที่รอรับการมาเยือนของบุคคลที่รักธรรมชาติ รักการถ่ายรูป และชอบความสวยงาม ในนามของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หวังว่าการจัดแปลงกังหันในครั้งนี้ จะให้การต้อนรับได้อย่างอบอุ่นและประทับใจ ขอให้ทุกท่านมีความสุข สนุก และเพลิดเพลินในการชมทุ่งดอกไม้นานาพรรณแห่งนี้”
ด้านนายภาณุพงศ์ วงษ์ทอง กล่าวว่า “แปลงกังหัน ได้เริ่มขึ้นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2556 โดยนักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาพืชไร่เป็นผู้ริเริ่มนำนักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาพืชไร่ ร่วมกับนักศึกษาปี 1 บุกเบิกและพัฒนาพื้นที่ว่างของหมวดพืชไร่ สาขาวิชาพืชไร่ คณะเกษตรศาสตร์ จำนวน 1 ไร่ เท่านั้น โดยปลูกต้นแก่นตะวันและทานตะวัน แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จนัก เนื่องจากขาดงบประมาณ การวางแผนงาน ประสบการณ์ และการประชาสัมพันธ์ หลังจากนั้น ได้มีการพัฒนาแก้ไขปัญหา กระทั่งได้ขยายพื้นที่เป็น 5 ไร่ พร้อมเพิ่มพรรณไม้ดอกที่เหมาะสม และเน้นการพัฒนาฝึกงานเพื่อฝึกพัฒนาทักษะการเป็นผู้ประกอบการอย่างจริงจัง จนในการจัดทำแปลงกังหันครั้งล่าสุด ครั้งที่ 7 ปี พ.ศ. 2562 ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี โดยการสนับสนุนงบประมาณจากคณะเกษตศาสตร์และสมาคมศิษย์เก่าคณะเกษตรศาสตร์ ประกอบกับนักศึกษามีประสบการณ์การจัดทำแปลงมากยิ่งขึ้น โดยเพาะทุ่งดอกคอสมอส พร้อมกับมีการส่งเสริมต้านการประชาสัมทันธ์ผ่านทางสื่อต่าง ๆ”
“สำหรับแปลงกังหัน ครั้งที่ 8 พ.ศ. 2563 เป็นการจัดที่ประสบความสำเร็จสูงสุด เนื่องจากได้รับการสนับสนุนทางด้านกำลังใจ สิ่งของ และงบประมาณจากมหาวิทยาลัย คณะเกษตรศาสตร์ สาขาวิชาพืชไร่ และสมาคมศิษย์เก่าคณะเกษตรศาสตร์ โดยมีสื่อมวลชนให้การสนับสนุนอย่างดี และนักศึกษาต่างนำเอาความรู้จากประสบการณ์มาทำงานร่วมมือกันด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ โดยมีจำนวนผู้เยี่ยมชมกว่า 4 หมื่นคน และในครั้งที่ 9 ในปีนี้ แม้จะไม่สามารถจัดได้ในช่วงเวลาการแสดงความยินดีแก่บัณฑิตใหม่และญาติมิตร เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดและความรุนแรงของโรคโควิด 19 แต่ ยังนำแนวคิดสำคัญในการฝึกทักษะการผลิตพืช สร้างความสามัคคีในการทำงานร่วมกัน โดยบูรณาการความร่วมมือของนักศึกษาทุกชั้นปี สาขาวิชาพืชไร่ และนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่ง สร้างทุ่งคอสมอส ทุ่งดอกทานตะวัน และดอกดาวกระจาย เชื่อว่าแปลงกังหันจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นจุดเช็คอินรับปีใหม่ต้อนรับการมาเยือนของผู้ชื่นชอบพรรณไม้งาม”
ส่วนรศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล กล่าวว่า จากรายงานของนักศึกษา หัวหน้าชุมนุมเกษตรเรียนรู้ ก็รู้สึกชื่นชมในความร่วมมือร่วมใจ และความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญและร่วมกันจัดแปลงพรรณไม้สร้างภูมิทัศน์ที่สวยงามให้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่นติดต่อกันมาเป็นปีที่ 9 เป็นแปลงไม้ดอกไม้ประดับที่งดงาม ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้คณะเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น แม้จะมีปัญหาการจัดล่าช้ากว่าปีที่ผ่านมา แต่สัมผัสได้ถึงความตั้งใจ มุ่งมั่น ของนักศึกษาผู้จัดงาน โดยเฉพาะชุมนุมเกษตรเรียนรู้ที่ได้วางแผน เตรียมงาน และนำความรู้จากการเรียน ออกมาสร้างแปลงกังหันปลูกดอกไม้นานาพรรณให้ผลิดอกออกมาได้อย่างงดงาม สร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง ขอชื่นชมในความมุ่งมั่น ทุ่มเท และความร่วมมือกันของนักศึกษาทุกคน ที่ได้ประสานการทำงาน และร่วมมือกับทุกส่วนงานจัดแปลงกังหัน ทุ่งดอกไม้นานาพรรณขึ้น เชื่อว่าหลังสำเร็จการศึกษานักศึกษาจะได้นำประสบการณ์จากการเรียนรู้ไปใช้ให้ประสบความสำเร็จในชีวิตต่อไปในอนาคต
“สำหรับแปลงกังหัน ทุ่งดอกไม้นานาพรรณ ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ยังคงมีการปลูกพรรณไม้ดอก จัดจุดถ่ายภาพ และผลผลิตด้านการเกษตรของนักศึกษาเพื่อรองรับการมาเยือนของผู้ชื่นชอบ ผู้รักดอกไม้และธรรมชาติ เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2564 เป็นต้นมา มีค่าเข้าชม เพียงท่านละ 20 บาท สำหรับท่านที่อายุเกิน 55 ปี และเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าชมฟรี! โดยรายได้ทั้งหมด ใช้ในกิจกรรมของนักศึกษา การพัฒนาหมวดพืชไร่ และเป็นทุนในการจัดแปลงกังหันในปีต่อไป” รศ.นพ.ชาญชัย กล่าว.